คุณเคยอยากบอกรักใครสักคน แต่เกิดปอดแหกเปลี่ยนใจกะทันหันมะ? แล้ว อาการไม่กล้ารัก ล่ะ เคยแวบเข้ามาในหัวของคุณบ้างอ๊ะเปล่า?

ที่จริงเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรหรอก แต่สมัยนี้ ปรากฏว่า เจ้าอาการรักไม่บอก และ ไม่อยากรัก กลายเป็นของทันสมัยไปซะแล้ว พอๆกับอาการรักกันไม่นาน เดี๋ยวก็เลิกกันแล้วนั่นแหละ


งั้นช่วยกันหาสาเหตุของอาการไม่กล้ารักกันหน่อยมะ เผื่อบางทีอาจทำให้ใครๆตาสว่างแล้วอวยพรให้รักจงเจริญพร้อมกับเกิดความรู้สึกหนักแน่นที่จะรักขึ้นมาก็ได้

อ้าว! งั้นมามะ ทีนี้ได้เวลาหาคำตอบว่า ทำไมไม่กล้ารัก กันสักทีได้แล้วเนาะ เช่น.....





1. ไม่กล้ารักใคร เพราะกลัวกลายเป็นฝ่ายรักเค้าข้างเดียวน่ะ


ขืนรักคนที่ไม่ได้รักเราตอบ นอกจากจะทำให้จ๋อยหงอย และได้เป็นสมาชิกชมรมไร่แห้วแล้ว ยังเจ็บปวดและระทมไม่ใช่เล่นเชียวนะ แถมเรื่องแบบนี้ (รักเค้าแล้วเค้าไม่รักตอบ) เกิดขึ้นง้าย ง่ายซะด้วย แม้คนโสดสมัยนี้หาจีบได้ไม่ยาก เพราะมีคนโสดอยู่เพียบ ส่วนจะโสดซิงๆ หรือโสดแบบผ่านการมีคู่มาแล้วก็เหอะ


แต่ไอ้ที่โสดๆน่ะ ก็มักมีแนวโน้มกลัวการถูกปฏิเสธพอๆกันนั่นแหละ โธ่ ทำมั้ย ทำไมต้องตกที่นั่งเดียวกันด้วยนะ ว้า....เป็นงี้แล้วเมื่อไหร่จะกล้าเปิดใจรักใครสักที


ที่ฝอยๆมานี่ เพราะอยากเชียร์ให้ทุกท่านกล้าที่จะรักมากกว่านะ ซึ่งหากความเลิฟคราวนี้ ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ หรือโดนตอกหน้ากลับมาจากฝ่ายที่เราอุตส่าห์เทใจให้ ว่าอยากเป็นแค่เพื่อน แต่เอ๊ะตอบแบบนี้หมายฟามว่า

เค้าอยากกั๊กเราไว้เป็นเพื่อนแน่รึ แต่ฟังดูคล้ายไม่อยากให้เสียความรู้สึกระหว่างกันมากกว่านะ เพราะถ้าแน่จริงก็พูดไปเลยสิว่า ไม่ได้รัก อุ้ย...รุนแรงอ่ะ แต่ถึงไงก็ควรทำใจรับความจริงให้ได้ ก็เค้าว่า ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายไม่ใช่เรอะ แต่จวนเจียนทำให้ขาดใจแฮะ

ทว่า เหตุการณ์ที่คุณคิดว่า ทำให้หน้าแตกคราวนี้ พอผ่านไปสักพัก ใครคนนั้นอาจเปลี่ยนใจหันมาคิดถึงคุณด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้นในภายหลังก็ได้....ฮิฮิ นี่ให้กำลังใจกันสุดกู่แล้วนะเนี่ย

เอ้า อย่างน้อย เมื่อเค้ารู้ว่ามีคนมารักก็ยังดีกว่ามาเกลียดแหงๆ แถมถูกปฏิเสธซะมั่ง จะได้ทำให้เรามีวัคซีนใจไว้ ป้องกันความกลัวด้วยไงล่ะ และห้ามเก็บไปคับแค้นใจเด็ดขาด เพราะพวกเราเป็นคนมีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ใช่ม้า รู้หรอกน่า





2. เกรงว่าจะเป็นแฟนได้ไม่ดีพอ จึงไม่กล้ารักใครให้ผิดพลาดภายหลังน่ะซี


คนเราเมื่อมีความรักทั้งทีก็อยากเอาใจสุดสวาทให้มากที่สุดอยู่แล้ว แต่ในใจลึกลงไปก็กลัวว่า จะไม่สามารถหาทุกอย่างที่คิดว่า แฟนอยากได้ หรืออยากมีมาประเคนให้เค้าทั้งหมด....โถ ตรงนี้ไม่เห็นต้องหวั่นเลย เพราะถ้ารักจริงก็ควรรู้ว่า เราอยากเป็นแฟนกัน เพื่อได้แชร์ความรู้สึก และได้พูดคุยตลอดจนให้กำลังใจกัน ไม่ใช่หวังจะไปปอกลอกเค้าซะหน่อย หรือเรียกร้องอะไรซะหน่อย


เหตุนี้คนอยากมีแฟน และอยากรักใครสักคน จงอย่าประเมินตัวเองต่ำไปว่า จะเป็นแฟนได้ไม่เอาไหน แม้ความจริงจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม...ว้ายตาย! พูดจี้ใจดำไปได้ไงเนี่ย งั้นขอให้ระลึกไว้เถอะว่าทุกคนมีความดีอยู่ในตัว จึงควรลองคบ และลองรักกันก่อน แล้วค่อยตัดสินดีกว่า ขืนตัดสินใจคนเดียว ก็ไม่แฟร์ กะคนอื่นเช่นกันนะเพ่




3. ไม่กล้ารัก เพราะกลัวเจอคนขี้จุ๊


บอกว่า รักเธอเท่าฟ้า แต่พฤติกรรมดันแสดงออกเพียงรักเธอเท่าฝ่ามือเดียว แล้วควรรักเรอะ ปล่อยเค้าไปหลอกคนอื่นยังดีซะกว่าเชอะ



4. ไม่กล้ารักใคร เพราะกลัวเจอแฟนที่มี ความต้องการทางเพศไม่สมดุลกันก็แย่ดิ



บางคนเห็นติ๋มๆแต่เซ็กซ์ขึ้นสมองก็มี หรือในทางกลับกัน เค้าอาจเป็นหมูสนามจริง แต่เป็นสิงห์สนามซ้อมจอมขี้คุยก็ได้ ซึ่งไม่มีทางมองแค่หน้าแล้วรู้ได้หรอกว่า พฤติกรรมทางเพศของใครจะเป็นไงกันแน่? นอกจากได้ทดลองอยู่ด้วยกันแล้ว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายที่อยากรักแต่ไม่กล้าด้วยแหละ ว่านิยมชมชอบปฏิบัติการซู่ซ่าบนเตียงแบบไหน?

หากคุณเป็นคนมีความต้องการด้านเสน่หาทางเพศมาก และใครคนนั้นที่คุณเล็งไว้ก็แจ็กพอตเป็นคนที่สวรรค์บันดาลให้มี ความปรารถนาใกล้ เคียงกัน ละก็ ฮันแน่....ย่อมเสพสมอารมณ์หมาย เอ้ย....สุขสมอารมณ์หมาย ใช่เลยล่ะซี

แต่ถ้าคุณคึกคัก ส่วนอีกฝ่ายมัวแต่เต้นฟุตเวิร์ก ไม่กระตือรือร้นในการตอบสนองเรื่องเฮฮาประสาคู่เลิฟบนเตียงเหมือนกันเลย คงน่าผิดหวังเนอะ แต่ว่ามะอย่าหวังเจอคนที่ชอบเหมือนกันเป๊ะๆเลย แค่ขอให้มีความชอบไม่ห่างกันนักก็พอ

เพราะคุณกำลังหาคนรักนี่ ไม่ใช่หาฝาแฝดของตัวเองซะหน่อย ใช่ไหมล่ะฮ้า






ที่มาfwmail


เรื่องนอกอกนอกใจเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย เพราะอาการใจสะออน อ่อนแรง และไม่อยู่ กับเนื้อกับตัว แต่เบนทิศทางไปแสวงหา “ที่หมายใหม่” นั้น...เป็นอะไรที่สังเกตดูดิ่ ว่าบางทีก็หาสาเหตุและเหตุผลได้ แต่หลายครั้งกลับค้นไม่เจอ เหมือนกันว่าทำไมต้อง “นอกใจ” กันด้วย



จึงสันนิษฐานได้อย่าง เอ๊ะแต่จริงๆ คิดได้หลายอย่าง ว่าการนอกใจน่ะ หากไม่เกิดจากความเบื่อหน่ายซึ่งกันและกันแล้วไซร้ อาจเกิดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพอเซ็งอีกข้างขึ้นมา ก็เอาแหละ ชิ่งหนีไปซบอกหรือกระแซะคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนตัวจริง, รึไม่งั้นก็ไปหาเศษหาเลยแต๊ะอั๋งเอ๊าะๆ ซะเลย เอ้าทำงี้ มันช่วยให้เลือดลมสูบฉีด แถมยังทำให้หัวใจพองโตด้วยนี่หว่า แล้วจะไม่ให้อยากไปจุ๋งจิ๋งกุ๋งกิ๋งและเกาะแกะกะคนอื่นได้ไง? แต่ที่เกริ่นมานี่ก็พูดเรื่องน้ำเน่าไปงั้น



ที่จริงน่ะอยากให้ทายกันมากกว่าว่า คนแบบไหนน้า...ที่จะทำให้ใจของท่านทั้งหลายแตกสลายเป็นเสี่ยงๆได้ ถ้าขืนไปคบกับคนอย่างงี้! โอ้โห อยากรู้กันแล้วใช่ปะ มามะ เริ่มกันที่ผู้มีพฤติกรรมเข้าข่ายต่อไปนี้ได้เลยเช่น

พวกที่ไม่มีเพื่อนซึ่งคบกันมาอย่างยาวนานไง



สังเกตดูเด่ะ คนที่ไม่มีเพื่อนสนิทให้คบกันยืดยาวเลยสักคนน่ะ คนพรรค์นี้แหละมีสิทธิ์ทำคุณอกหักหรือมาหักอกคุณได้ ดังนั้น หากท่านใดบังเอิ๊ญ บังเอิญไปคบหาคนข้อนี้เป็นกิ๊กหรือแฟนเข้าละก็ มีโอกาสที่จะ ถูกเค้าทำให้เสียใจได้ ภายหลังน่ะเซ่



เฮ้อ แม้แต่ “เพื่อนสนิท” เค้ายังไม่มีเล้ย แล้วนับประสาอะไรเค้าจะคบกับใครได้ยืด แถมบางคนน่ะแม้แต่ เพื่อนเฉยๆ ยังไม่มีด้วยซ้ำ แล้ว คนที่แม้แต่เพื่อนซึ่งไม่รู้ล่ะว่า เป็นคนเอาหรือไม่เอาเพื่อนเลยสักคนเดียว แบบนี้คิดเรอะว่า จะเป็นคนมีจิตใจอยากผูกสมัครรักใคร่กะใครแบบจริงจัง, มั่นคงและรักแล้วรักเลย....คำตอบคือยาก หรือหากมีก็น้อยมาก



พวกจำแม่น แต่จำในสิ่งที่ไม่ควรจำเท่าไหร่นะ เพราะถ้าขี้ลืมสักนิดหรือตัดทิ้งข้อปลีกย่อยของความจำไปบ้าง ชีวิตคงดีกว่านี้แน่



อย่าว่าแต่นิสัยแบบนี้ผู้หญิงบางรายจะเป็นกันเลย แม้แต่ผู้ชายบางคนก็จู้จี้จุกจิก, ขี้บ่นกันจะตาย




พวกนี้มักจำแต่สิ่งไม่ดีหรือเรื่องชั่วๆ ในอดีตของแฟนหรือคนใกล้ชิดเพื่อเอาไปปะทะคารมตอนไม่สบอารมณ์ คนใกล้ชิดไงเล่า! ส่วน สิ่งดีๆ ที่เคยมีต่อกัน ไม่จำหรอก จำอยู่ได้ไอ้เรื่องที่เราอาจเคยพลาดพลั้งทำไม่ดีไปมั่ง ดังนั้น พอเค้าเกิดไม่พอใจขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็จะเรียบเรียงสิ่งเลวๆ ที่แฟนอย่างเราๆ เคยทำเอาไว้นั้นแหละนำมาฟาดฟันกันตอนมีปากเสียงกันน่ะซี (แต่ขออุบอิบก่อนว่า ข้อนี้ไม่นับคนที่โดนแฟนทำร้ายจิตใจเป็นประจำชนิดไอ้ฝ่ายนั้นมันชั่วจริงๆ หาดีไม่ได้เลย...นะ เพราะถ้าเจอคนอย่างนี้ หรือหลวมตัวไปเป็นแฟนกะ “คนไม่ดีเลยสักอย่าง” ก็ควรเลิกกะมันไปตั้งนานแล้ว)



พวกอยากมีอะไรต่อมิอะไรเป็นส่วนตัวมากๆ จะได้โชว์เดี่ยวเยอะๆ



ทั้งอยากมีเวลาเป็นของตัวเอง แล้วยังอยากมี “พื้นที่ส่วนตัว” สูงเป็นดับเบิลของชีวิตคนธรรมดา นี่ก็น่าเกรงขามนักล่ะ นัยว่า ที่เค้าต้องการมีสเปซหรือพื้นที่ส่วนตัวมาก เพราะอยากไปไหนไปได้ ไปแล้วไม่มีใครเกะกะ, ไม่มีใครคอยเป็นตัวถ่วงให้เค้ารำคาญใจ, หงุดหงิดหัวใจและรู้สึกว่า มีใครก็ไม่รุคอยขวางลูกตากูเอ๊ยตูอยู่ได้....งั้นก็อย่าไปตอแยกะเค้าเลย เตือนนี่ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะคุณก็จะเบื่อไอ้นี่ด้วยแหละ ไม่รู้คิดว่าตัวเองวิเศษมาจากไหน?



รู้ไว้เถอะ ว่าคนที่ทำให้ใจคุณเจ็บช้ำได้น่ะ เค้าจะดีกะคุณในช่วงแรกๆเท่านั้นแหละ แต่หลังจากนั้น ก็คิดเอาเองละกันว่า เค้าจะตัดเยื่อไม่เหลือใยกะคุณยังไง? เอ...แต่ถ้าอยากเจ็บเพราะ “อีกฝ่ายใจร้าย” ละก็ เชิญเถอะฮ้า ถ้าไม่เคยจะลองดูก็ได้....อิอิ



พวกไม่คำนึงถึงจิตใจคนอื่น



เรียกพวกชาเย็น, ใจดำและใจยักษ์ อะไรก็ได้ ขอให้เป็นคนที่ไม่เคยคำนึงว่า คำพูดคำจาของตัวเค้าจะไปกระทบจิตใจอันอ่อนไหวของชาวบ้านชาวช่อง หรือใครๆจะสะดุ้งสะเทือนต่อคำพูดเห่ยๆ ของเค้ารึเปล่า? ก็คือคำจำกัดความของบุคคลในข้อนี้แหละ



ยิ่งหากคนคนนี้ ชอบปากเสีย หรือชอบพูดจาเสียดสี ซึ่งแสดงว่า ไม่ใช่คนมีความจริงใจกะคนอื่นเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่น่าคบมากเท่านั้น เพราะขืนรู้จักกันไปมากๆเข้า เค้าก็ยิ่งทำให้คุณผิดหวัง ผิดหวังและผิดหวังซ้ำซ้อนและลึกซึ้ง จนเจ็บลึกไปนาน...แต่คุณไม่เจ็บนานจริงๆหรอกใช่ม้า



พวกเวลาที่อยู่กะคุณมักใจลอยไปหาคนอื่น




นี่ก็ใช่ แบบแหม...พออยู่กะเรานะ ชอบทำ “ใจหาย” หรือเหม่อลอยไปไกลโยชน์บ่อยๆ ไงตัว ซึ่งที่จริงเค้าควรมีกะจิตกะใจอยู่กะเรามากกว่าเนอะ แต่ก็นั่นแหละ เค้าจะมีโฟกัสกะคุณเพียงแค่ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น พอหลังจากนี้ เค้าก็ไม่สนแล้ว หันไปสนอย่างอื่นที่...



ก.เป็นสิ่งยั่วยวนจิตใจเค้าให้ไขว้เขวไปถึงไหนๆ ได้มากกว่าไม่ดีเรอะ หรือ ข.สิ่งยั่วยุใหม่ๆที่ทำให้เค้าอยากลิ้มลอง จนบางครั้งเค้าก็พลาดพลั้งจนไป “เสียฟอร์ม” คนอื่นอีกที....555 สม...ไงล่ะ



พวกชอบจับผิด



ข้อนี้แทบไม่ต้องอธิบาย เพราะพวกชอบจับผิด มักไม่เคยคิดว่าใครหน้าไหนถูกอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น เค้าจึงถูกตลอด, ถูกเสมอ, ถูกทุกเมื่อ...ไม่เบื่อที่จะเป็น “คนถูก” ซึ่งในทางตรงกันข้าม เค้าย่อมเห็นว่าคุณทำอะไรนิดอะไรหน่อยก็ผิดอยู่นั่น ผิดแล้วผิดอีก แถมยังย้ำด้วยว่าคุณเป็นฝ่ายผิด ขนาดถ้าเผื่อคุยกันเรื่องเฮฮาในหมู่เพื่อนฝูงอยู่ดีๆ เค้ายังสามารถบอกได้เลยว่า คุณพูดผิด...เพราะเค้าเห็นว่าคุณผิด (แล้วเค้าถูก) นี่แหละ คุณกะเค้าถึงเข้ากันไม่ได้ แต่เค้าสามารถหักหาญน้ำใจของคุณได้...แล้วงี้จะอโหสิหรือจำไว้เอาคืนดีฮ้า?


สมัยนี้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายดีๆ หายากตายชัก แต่ อย่าเพิ่งท้อไป เพราะก็ยังมีผู้หญิงนิสัยดีอยู่อีกเยอะ แม้จะหายาก ก็ตามที ว่าแต่ คำว่า "ดี" ในที่นี้ มนุษย์แต่ละคนคงให้ดีกรี "แห่งความดี" ของคนที่เราจะคบหา สมาคมด้วยแตกต่างกันไป เพราะเห็นมาเยอะแล้ว ที่ดีสำหรับเรา แต่คนอื่น กลับมองว่าไม่ดีก็มีถมเถ ดังนั้น มาดูกันดีกว่าว่า มี ผู้หญิงแบบไหนบ้างล่ะ ที่ควร คว้ามาเป็นแฟน (12 Types of Women You Should Date) และนี่ก็เป็นคุณสมบัติของสาวๆที่ใครๆ ก็หมายปอง ได้แก่...


1. มิสแสนหวาน (Miss Sweet)
เป็นผู้หญิงที่ ในชีวิตมีแต่เรื่องดีๆ รื่นเริงบันเทิงใจ มองโลกในแง่ดี จึงทำให้ฝ่ายที่จะมาเป็นคู่รัก มีแต่ความสดชื่นเมื่ออยู่ใกล้ เธอช่างเป็นสาวที่มีความจริงใจ (โอ้ย เขียนไปก็เริ่มจะเอียน ด้วยความอิจฉาตาร้อนผ่าว) ฉะนั้น หากใครพบ ก็ควรรีบตะครุบไว้ อย่าปล่อยให้ ม.ค.ป.ด.นะยะ


2. มิสเสมอภาค (Miss Equality)
แบบนี้เป็นนักสิทธิสตรีตัวยง แต่ไม่ถึงกับต่อ ต้านเพศชายนะ เพียงแต่เธออาจไม่พอใจมากๆ หากเกิดรู้ว่าเธอถูกเลือกปฏิบัติขึ้นมาก็สวยล่ะสิ มิสเสมอภาคเชื่อว่า ทั้งชายและหญิงควรจะก้าวเดินไปพร้อมๆกัน หรือไม่ก็เป็นหุ้นส่วนแบบ 50/50 และเต็มใจที่จะหารความรับผิดชอบและค่าเที่ยวหรือค่าใช้จ่ายกันคนละครึ่ง หนุ่มๆคงชอบแหละเพราะไปเที่ยวด้วยกันก็อเมริกันแชร์


3. มิสเซ็กซ์จัด หรือเซ็กซ์ขึ้นสมอง (Miss Sexsual) ชื่อหวาดเสียวเนอะ ชื่อของสาวประเภทนี้ก็บอกแล้วว่า ชอบกิจกรรมกามกิจเป็นพิเศษ หากชอบเซ็กซ์กะเซ็กซ์มาเจอกันก็โป๊ะเชะไปเลย แต่เปล่านะ เธอไม่ได้กำลังขายเซ็กซ์หรือใช้เซ็กซ์เป็นเครื่องมือปั˜นหัวพวกผู้ชาย เพียงแต่สาวกรุ๊ปนี้เค้าเรียกร้องความต้องการตามธรรมชาติน่ะ เพราะรับรองได้ว่า เธอปรารถนาเซ็กซ์แต่ไม่สับสนกับความต้องการทางเพศ ที่รุนแรงของสาวมีปัญหาทางจิตหรอกน่า เธอสามารถมีเพศสัมพันธ์ กับคนที่เธอชื่นชอบได้ไม่ยาก แถมหนุ่มๆจะหลงผู้หญิงแบบนี้ด้วยสิ


4. มิสเพื่อนที่แสนดี (Miss Best Friend)
ถ้าเรียก ทับศัพท์ว่า มิสเบสท์ เฟรนด์ ยังเพราะกว่าอีก เห็นด้วยไหม? สาวรายนี้ใกล้เคียง กับมิสหวานจ๋อย สาวประเภทนี้น่าคบจะตายไป ถ้าได้เธอเป็นแฟนก็เหมือนยิงทีเดียวได้นก 2 ตัว เพราะ จะได้เพื่อนซี้ด้วยไง ทีนี้แหละ ไปไหนก็ชวนกันไป จะชวนดูเกมโชว์ ชวนดูกีฬาเธอก็ไม่เกี่ยง ชอบทำกิจกรรมด้วยกัน แถมหากมีอะไรเกิดขึ้นกะแฟน เธอก็จะเข้าข้าง "หวานคอแร้ง" เอ้ย หวานใจเสมอ หนำซ้ำยังตลกกับเรื่องขำขันฝืดๆของแฟนได้ด้วย


5. มิสตรงไปตรงมา (Miss Straightforward)
เป็นสาวที่รู้จักวิธีสื่อสาร เพราะไม่ชอบเล่นเกม ปวดหัว ฉะนั้น ทำอะไรตรงไปตรงมาดีกว่า ไม่ต้องให้ หนุ่มๆมาอ่านใจให้น่ารำคาญ บรรดากูรู (แปลว่ารอบรู้ ไม่ใช่รูกู) คอนเฟิร์มว่า มิสเถรตรงเป็นสาวมั่น ถ้าเธอติดตาต้องใจหรือชอบใครละก็ หากรู้เบอร์โทรศัพท์ เธอจะไม่มีวันรีรอหรือทำเป็นอ้อยอิ่ง รอให้ราชรถมาเกยเด็ดขาด แต่เธอติดจะเป็นคนขวานผ่าซากนะ เลยไม่ค่อยได้เห็นความดัดจริตของสาวกลุ่มนี้เท่าไหร่


6. มิสอิสรเสรี (Miss Independent)
ถ้าไม่มีเวลามากพอที่จะทุ่มให้กับความสัมพันธ์ ละก็ สาวรายนี้แหละที่เหมาะกะคนไม่ค่อยมีเวลามาประคบประหงมเธอมากที่สุด เพราะหล่อน อยู่คนเดียวได้สบายมาก ไม่เกาะติดแฟนเกินไป ว่ากันว่า สาวพวกนี้อยากมีคนรักก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่า จำเป็น "ต้องมี" เสมอไป อ้าว! ยังไงกันเนี่ย อ๋อ แปลว่า จะมีแฟนก็ได้ ไม่มีก็ไม่เป็นไร


7. มิสจงรักภักดี (Miss Loyal) รับรองได้เธอเป็นแฟนแล้วจะรู้ว่า ความซื่อสัตย์ และรักเดียวใจเดียวน่ะมีจริงนะยะ ว่าแต่คนรักของเธอจะสัตว์...สัตย์ซื่อด้วยรึเปล่า นี่ก็เวรกรรมของใคร ของใครก็รับกันไป


8. มิสไร้แรงกดดัน (Miss No Pressure)
ขณะสาวๆหลายนางพยายามเหลือเกิ๊นที่จะได้ แต่งงาน แต่ "มิสไร้ซึ่งแรงกดดัน" จากครอบครัวและคนรอบข้างทั้งปวงไม่ตกเป็นเหยื่อของพรรค์นี้ เธอจะมีความสุขกับการได้เลือกคนรักเอง และอยู่กะเขาแบบไม่ต้องพะวงว่าจะมีใครกีดกันรัก แหม้ดีจริงจริ๊งนะจ๊ะหนู


9. มิสมั่นคง (Miss Secure)
จะยอมรับตัวตนของเธออย่างที่เธอเป็น ทั้งข้อดีและเสีย แถมยังรู้สึก อย่างนี้กะคนรักด้วย หล่อนไม่ ต้องการความเอาใจใส่อย่างมากมายเกินเหตุจากดาร์ลิ่ง เพราะเธอรู้หน่าว่าจะดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูกที่ควรได้อย่างไร


10. มิสบุคลิกยอดเยี่ยม (Miss Personality)
แม้เธอไม่ได้ชนะเลิศการประกวดความงาม (ก็ไม่ได้ไปประชันขาอ่อนกะใครนี่หว่า) แต่ความเฉลียว-ฉลาด เฉียบแหลมและฉายแรงเปล่งประกายเลอเลิศด้านบุคลิก ล้วนเป็นแม่เหล็กทำให้เธอเป็นที่หมายปองของใครๆ สาวที่มีบุคลิกดีเนี่ยนะ บางทีได้เปรียบสาวสวยซะด้วยซ้ำ เพราะแหม มารยาทดีปานนี้ ถ้าแฟนจะพาไปหาพ่อแม่เค้าก็ง่ายใช่ป่าว


11. มิสเรียบง่าย (Miss Low Maintenance)

โอ้ หญิงประเภทนี้หายากที่สุดของความยากเลย เชียวล่ะ เพราะเธอจะไม่แคร์หรอกว่าแฟนรวยจนแค่ไหน เพราะเธอไม่ใช่คนฟุ่มเฟือยที่ใช้เงินเปลืองอยู่แล้ว เพราะ ฉะนั้น เธอจะเลือกใครมาเป็นแฟนก็เพราะรัก แล้วเธอก็คิดว่าตัวเองสามารถหารายได้มาจุนเจือตัวเองได้


12. มิสสาวที่ "ใช่เลย" สำหรับคุณ (Miss Right for You)

ผู้ชายมักเลือกควงสาวหน้าตาดีมีเสน่ห์ เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้เขา ดูดีในหมู่เพื่อนๆของเขาไปด้วย แต่ลืมว่า ใครกันแน่ที่เหมาะกับเขาอย่างแท้จริง เพราะบางทีสาวหน้าตาจิ้มลิ้มธรรมดาอาจให้ความรัก และความอบอุ่นมากกว่าคนสวยที่รักแต่ตัวเองและไม่รักผัว...เอ๊ยแฟนก็มี เหตุนี้เวลาจะสมัครรักใคร่กะใครก็หัดเลือกคนที่จิตใจดี ดีกว่าเลือกเพราะองค์ประกอบภายนอก สวยๆหล่อๆน่ะมีแต่จะทำให้ช้ำ ทราบแล้วเปลี่ยน.



ที่มา
ผู้หญิงนะคะ


หากคุณโดนทิ้ง และเสียใจ . . .
จงคิดไว้ว่า . . . คุณไม่ใช่คนเดียวในโลกที่อกหัก
ไม่มีใครไม่เคยเสียใจ . . . ทุกคนเจ็บช้ำมาแล้วทั้งนั้น

ความเหงา . . . อาจทำให้รู้สึกอ้างว้าง
. . . แต่ไม่เคยทำให้ใครเจ็บปวด จงรักในขอบเขตที่จะรักได้ . . .
เพราะคนบางคนเกิดมาเพื่อ . . . จะให้เรารัก
แต่ไม่ได้เกิดมาเพื่อ . . . เป็นของเรา

คิดไว้ซะว่า . . . เมื่อก่อนเราไม่มีเค้า
เราก็อยู่ได้ . . . ตอนนี้ไม่มีเค้า จะต้องไปแคร์อะไร

อย่าคิดว่าเค้าคือคนที่ดีที่สุด . . .
ถ้าเค้าคือ คนที่ดีที่สุดจริงๆ เค้าคงไม่ทำให้คุณเสียใจขนาดนี้
ลองเปิดใจหาคนใหม่ . . .

เคยได้ยินคำนี้มั๊ย "เหนือ ฟ้า ยัง มี ฟ้า"
. . . ยังมีคนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
ยืนรออยู่ข้างหน้า . . . ก้าวเดินต่อไป อย่าย่ำอยู่กับที่
อย่าเดินถอยหลังไปหาอดีตที่ทำให้คุณเสียใจ

วันนี้อาจเป็นวันที่ฝนตก ฟ้าครึ้ม . . .
จงนึกไว้เสมอว่า . . . ต้องมีซักวันที่อากาศสดใส
. . . พรุ่งนี้ต้องเป็นของเรา . . .


fwd