ตะละแม่วีนัส



เฮ้อ...แล้วในที่สุดชีวิตคู่ก็ถึงทางตัน สายเกินไปที่จะแก้ไขอะไรต่อมิอะไรให้ดีขึ้น หนทางสุดท้ายคือการหย่าร้าง ในเมื่อเหตุการณ์ต้องจบลงแบบนี้ และต้องกลับมาเป็นโสดอีกครั้ง การหย่าร้างจึงต้องมีกฎกติกามารยาทดังนี้



หาคนที่ไว้ใจได้



หาคนที่ไว้ใจได้ก่อนที่จะเอ่ยปากเล่าเรื่องให้เพื่อนฝูง หรือคนที่กำลังจะกลายเป็นอดีตญาติได้รับรู้เรื่องราว แล้วจะประหลาดใจเมื่อพบว่า มีคนตั้งตัวเป็นศัตรูในภายหลัง รับประกันได้ว่าจะมีทั้งเพื่อนและศัตรูในระหว่างดำเนินเรื่องหย่าร้าง อาจได้เห็นธาตุแท้ของคนก็คราวนี้ละ ปัญหาคือ บางครั้งกว่าจะมองคนออกก็ถลำลึกลงไปแล้ว เมื่อรู้ตัวว่าไว้ใจคนผิดก็สายเกินแก้ ดังนั้นถ้ารู้จักป้องกันตัวไว้แต่เนิ่นๆเหตุการณ์นี้จะไม่เกิดให้ช้ำใจค่ะ



จดรายละเอียดทุกอย่าง




จดโน้ตทุกครั้งที่ไปพบทนายความของตัวเอง บันทึกคำถามและไอเดียทุกอย่างที่ผุดขึ้นมาในสมอง อย่าชะล่าใจคิดว่าจำได้หมด พอกลับบ้านก็ต้องมานั่งนึกแทบตายว่า ทนายพูดอะไรบ้าง อย่าไว้ใจตัวเอง ควรจดทุกอย่างลงบนกระดาษ ความเครียดจากการหย่ามีผลต่อความสามารถในการจำโดยตรง การจดโน้ตง่ายและประหยัดกว่าการโทรศัพท์ไปถามทนายเพื่อถามคำถามเดิมอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทนายที่คิดเงินค่าปรึกษาเป็นรายชั่วโมง ควรจัดความคิดและค่าใช้จ่ายให้เป็นระเบียบก่อนเดินเข้าสำนักงานทนายความ ยิ่งใช้เวลาน้อยเท่าไรก็ยิ่งเสียเงินน้อยลงเท่านั้น เพราะฉะนั้นจดแหลกค่ะ



แจ้งความเมื่อถูกทำร้าย



ถ้าถูกทำร้ายร่างกายต้องแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันทันที อย่ายอมยกโทษให้เด็ดขาดค่ะ ลองถ้าได้เกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้ว...ย่อมต้องมีครั้งที่สองและครั้งอื่นๆตามมาแน่นอน อย่ากลัวว่าเหตุการณ์จะเลวร้ายยิ่งกว่านี้ถ้าไปแจ้งความ นอกจากลงบันทึกแล้วก็ควรถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วย เอาไว้ยืนยันว่าเราถูกทำร้ายจริงๆนะ และถ้าปล่อยไปเรื่อยๆโดยไม่จัดการอะไรเหตุการณ์แบบนี้ก็จะเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก



อย่าเอาลูกเข้ามากี่ยวข้อง



อย่าปรึกษาเรื่องหย่ากับเด็กๆ อย่าดึงเด็กเข้ามายุ่งในระหว่างที่กำลังปรึกษา ถกเถียงหรือตัดสินใจเรื่องหย่า อย่าใช้เด็กเป็นเครื่องต่อรองหรือเอามาเป็นตัวปรองดองกัน การหย่าเป็นเรื่องของเรากับเขา อย่าเอาเด็กมาไว้ตรงกลาง ไม่ควรให้เด็กมารับรู้เวลาทะเลาะเบาะแว้งกัน การนำเด็กเข้ามาเกี่ยวข้องจะทำให้เด็กสับสนและเจ็บปวดมากขึ้น หนำซ้ำเด็กจะรู้สึกผิดและรับผิดชอบการแตกแยกของพ่อแม่ ในขณะเดียวกันเด็กอาจคิดว่าตัวเองสามารถช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ แต่พอไม่สำเร็จเด็กก็จะกลุ้มใจและหมกมุ่นคิดแต่ว่าจะทำอย่างไรถึงจะช่วยประสานรอยร้าวให้พ่อแม่ได้



อย่าทำร้ายตัวเอง



การหาทางออกด้วยการกินเหล้าเมาเละเทะ หรือเสพยาคลายเครียด หรือกินทุกอย่างที่ขวางหน้า หรืออดอาหารไม่กินอะไรเลย การกระทำแบบนี้ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้น และเป็นการทำร้ายตัวเองให้ย่ำแย่ลงไปอีก กลายเป็นเราที่ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์นี้แบบไม่ต้องผุดต้องเกิดกันเลยละ เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ค่ะ ยิ่งต้องเลิกรากันเราก็ยิ่งต้องสวยวันสวยคืน ควรดูแลรักษาสุขภาพให้ดี พักผ่อนให้เพียงพอ จัดตารางชีวิตใหม่ ยอมรับความจริงที่เจ็บปวด อย่าทำร้ายตัวเองเลยค่ะ ถ้าเราไม่รักตัวเองแล้วใครที่ไหนจะมารักเรา



อย่าใช้ทนายคนเดียวกับเขา



นี่คือความผิดพลาดอย่างมหันต์ การใช้ทนายคนเดียวกันไม่ใช่ความคิดที่ฉลาดเอาเสียเลย ทนายที่ไหนจะวางตัวเป็นกลางได้ในสถานการณ์แบบนี้ ลองคิดดูสิคะ ถ้าเราต้องการแบ่งสมบัติครึ่งหนึ่ง แต่เขาเต็มใจให้เราเพียง 1 ใน 4 แล้วทนายจะทำอย่างไรกับเงื่อนไขนี้ อย่าคิดประหยัดเงินโดยใช้ทนายคนเดียวกัน แยกกันดีกว่าค่ะ เรื่องราวจะได้จบเร็วขึ้น ไม่ต้องยืดเยื้อให้เซ็งอารมณ์.

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น